ปัจจุบันนี้ “บัตรกดเงินสด” และ “บัตรเครดิต” กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ด้วยความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการรูดบัตรเพื่อซื้อสินค้า ผ่อนชำระสินค้า เติมน้ำมัน หรือใช้กดเงินสดเพื่อใช้จ่ายในยามจำเป็นเร่งด่วน ทำให้หลายคนมองหาบัตรใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางในการใช้จ่ายและเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับตนเอง แต่หลายคนอาจสงสัยว่า เราสามารถมีบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดได้มากที่สุดกี่ใบ บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจเหล่านี้ พร้อมให้คำแนะนำในการใช้งานด้วย
เราสามารถมีบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตได้กี่ใบ
การที่เราจะมีบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิตกี่ใบนั้น ไม่มีกำหนดจำนวนตายตัวจากธนาคารแห่งประเทศไทยหรือสถาบันการเงินใดๆ ว่าคุณสามารถมีได้กี่ใบ แต่โดยทั่วไปแล้ว จำนวนบัตรที่คุณจะได้รับการอนุมัตินั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยหลายอย่างที่ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจะใช้พิจารณา
ปัจจัยที่ใช้พิจารณาอนุมัติบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง
- รายได้: รายได้ของคุณเป็นปัจจัยหลักที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะใช้พิจารณาเพื่ออนุมัติบัตรให้ โดยจะตรวจสอบว่าคุณมีรายได้เพียงพอที่จะรองรับภาระหนี้สินที่เกิดจากการใช้บัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิตได้หรือไม่ รวมถึงหากคุณมีหนี้สินมากอยู่แล้ว ธนาคารอาจจะพิจารณาไม่อนุมัติบัตรใหม่
- ประวัติการชำระหนี้: ประวัติการชำระเงินของคุณในบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดใบก่อนๆ จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินใช้ดูว่าคุณมีการชำระเงินตามกำหนดหรือไม่ หากคุณมีประวัติดี ไม่เคยค้างชำระ คุณก็อาจมีโอกาสได้รับการอนุมัติบัตรเพิ่ม
- เครดิตบูโร: ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาข้อมูลเครดิตบูโรของคุณเพื่อประเมินความเสี่ยง หากคะแนนเครดิตของคุณอยู่ในเกณฑ์ดี ก็จะมีโอกาสได้รับการอนุมัติบัตรเพิ่มมากขึ้น
- ภาระหนี้สิน: ธนาคารหรือสถาบันการเงินยังพิจารณาหนี้สินอื่นๆ ของคุณเพิ่มเติมด้วย เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์
- นโยบายของธนาคารหรือสถาบันการเงิน: แต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงินจะมีนโยบายในการอนุมัติบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดที่แตกต่างกัน บางแห่งอาจมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนบัตรที่ลูกค้าสามารถถือได้
ข้อควรระวังในการมีบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตจำนวนมาก
แม้ว่าคุณสามารถมีบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิตได้หลายใบ แต่ก็มีข้อควรระวังที่เราอยากฝากไว้ เช่น
- ควรระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย เพราะการมีบัตรหลายใบอาจทำให้คุณเผลอใช้จ่ายเกินกำลังและก่อให้เกิดหนี้สินสะสมตามมา
- การถือบัตรหลายใบอาจทำให้สับสนในการจัดการค่าใช้จ่ายรวมถึงวันครบกำหนดชำระ หากเกิดชำระไม่ตรงกำหนด ชำระไม่ครบ จะส่งผลให้เกิดดอกเบี้ยและค่าปรับได้
- บัตรบางประเภท โดยเฉพาะบัตรเครดิตมักจะมีค่าธรรมเนียมรายปี ค่าธรรมเนียมการกดเงินสด ค่าธรรมเนียมในการผ่อนสินค้า ฯลฯ ดังนั้น การมีบัตรหลายใบอาจทำให้เราต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มมากขึ้น จึงต้องศึกษารายละเอียดของสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของบัตรแต่ละประเภทให้รอบคอบ
คำแนะนำในการเลือกใช้และเลือกสมัครบัตรที่เหมาะสมกับการใช้งาน
เพื่อให้การใช้งานบัตรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควรพิจารณาถึงเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้
- เลือกบัตรที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์: พิจารณาว่าคุณต้องการใช้บัตรเพื่ออะไร เช่น กดเงินสด ซื้อของจำเป็น เดินทางต่างประเทศ เติมน้ำมัน รับประทานอาหารนอกบ้าน
- เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์: เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ที่แต่ละบัตรมอบให้ เช่น อัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือโปรโมชันในการผ่อนสินค้า
- อ่านเงื่อนไขให้ละเอียด: ก่อนตัดสินใจสมัครบัตร ควรอ่านเงื่อนไขการสมัคร การใช้งาน การคิดดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้ละเอียด
- อย่ามีบัตรเกินความจำเป็น: การมีบัตรจำนวนมากเกินไปอาจทำให้เราจัดการค่าใช้จ่ายได้ยากขึ้น
ยกตัวอย่าง: หากคุณเป็นคนที่ชอบเดินทางบ่อย คุณอาจเลือกบัตรที่มีบริการ virtual card ที่สามารถพกพาบัตรออนไลน์ได้ ไม่เสี่ยงต่อการเสียหาย หรือหากคุณต้องการความคล่องตัวทางการเงิน ต้องการกดเงินสดเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ควรเลือกบัตรกดเงินสดที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และมีความสะดวกในการกดเงินสด เช่น “บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส” ที่มีขั้นตอนการสมัครง่าย ไม่ซับซ้อน และสามารถกดเงินสดได้จากตู้ ATM ทั่วประเทศ
สิทธิประโยชน์ของบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส
บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส เป็นหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการมีบัตรกดเงินสดไว้ใช้ไม่ว่าจะซื้อสินค้า ผ่อนสินค้า หรือกดเงินสด เรียกได้ว่าครบจบในบัตรเดียว โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องถือบัตรหลายใบ เพราะบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสสามารถกดเงินสดออกมา พร้อมคิดอัตราดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดพิเศษ 0% นานถึง 30 วัน* รวมถึงสามารถผ่อนสินค้าได้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นานสูงสุดถึง 20 เดือน** (ขึ้นอยู่กับโปรโมชันในแต่ละช่วงเวลา) ร่วมกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้าที่ร่วมรายการที่มีสัญลักษณ์ Umay+ ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ยังมี Umay+ Application ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เช่น
- หลังจากได้รับการอนุมัติแล้ว สามารถเปิดใช้งานบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสผ่าน Umay+ Application และกดเงินสดออกมาใช้ได้ทันที
- สามารถกดเงินสดได้โดยไม่ใช้บัตรผ่าน Umay+ Application เพียงนำไปสแกน QR Code ที่ตู้ ATM ที่เลือกทำรายการ
- สามารถตรวจสอบยอดชำระ วันครบกำหนดชำระ พร้อมชำระเงินได้ผ่านแอปพลิเคชัน
- สามารถสั่งเงินโอนเข้าบัญชี รับเงินง่าย ภายในวัน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
- กรณีบัตรล็อก บัตรหาย ก็สามารถขอออกบัตรใหม่แบบ Virtual Card ได้ง่ายๆ
- ขอรับใบแจ้งยอดออนไลน์แบบรวดเร็วทันใจ โดยไม่ต้องรอเอกสารทางไปรษณีย์
- สามารถขอวงเงินเพิ่มผ่านแอปพลิเคชันได้ สะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา
- บริการแจ้งเตือนโปรโมชันพิเศษเฉพาะสมาชิก ทำให้ไม่พลาดสิทธิประโยชน์ดีๆ ตลอด 24 ชั่วโมง
ขั้นตอนการสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส
คุณสมบัติผู้สมัคร
- อายุ 20-55 ปี (สัญชาติไทย)
- พนักงานผู้มีรายได้ประจำตั้งแต่ 7,000 บาท ขึ้นไป
- มีหมายเลขโทรศัพท์ที่บ้านหรือที่ทำงานที่ติดต่อได้
- มีที่อยู่และที่ทำงานอยู่ในพื้นที่บริการ
สามารถสมัครได้ 3 ช่องทาง ได้แก่
1. สมัครผ่านทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://www.umayplus.com/cashcard/applyform
2. สมัครผ่าน Umay+ Application สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android
3. สมัครด้วยตนเองที่สาขาใกล้บ้าน
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร ได้แก่
1. บัตรประชาชนตัวจริง
2. เอกสารแสดงรายได้
- กรณีรับเงินเดือนโดยโอนผ่านธนาคาร: สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือนตัวจริง (ไม่เกิน 2 เดือน) และบัญชีเงินฝากย้อนหลัง ไม่น้อยกว่า 3 เดือนตัวจริง
- กรณีรับเงินเดือนโดยไม่โอนผ่านธนาคาร: สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือนตัวจริง (ไม่เกิน 2 เดือน)
สำหรับท่านใดที่อยากสามารถสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสแบบรวดเร็ว สามารถสมัครได้ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ https://www.umayplus.com/cashcard/applyform หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2695-0000
หมายเหตุ:
*เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วันหลังจากได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรก สำหรับลูกค้าใหม่) หลังจบรายการส่งเสริมการขายอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ย 19.8% – 25% ต่อปี
**อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อผ่อนชำระ 16.44% – 25% ต่อปี, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว